เวเนซุเอลา จัดประชุมเสวนา “สิทธิมนุษยชนของอเมริกา” จากมุมมองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน
การประชุมวาระพิเศษเรื่องสิทธิมนุษยชนของอเมริกาจากมุมมองของผู้นำสูงสุดอิหร่านครั้งที่ 7 จัดขึ้นในนามขององค์กรเยาวชนสิทธิมนุษยชนและศูนย์สิทธิมนุษยชนละตินอเมริกา ซึ่งทางเวเนซุเอลาเป็นเจ้าภาพและได้จัดขึ้นในเมืองการากัส วันอาทิตย์ที่13 พฤศจิกายน 2022
ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีอาจารย์มหาวิทยาลัยและบุคคลสำคัญระดับนานาชาติเข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ในช่วงเริ่มต้นของการประชุมนี้ นาย Dr. Ramon Alberto Medero Escalante ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่มหาวิทยาลัย Bolivarian State แห่งเวเนซุเอลา ได้อธิบายว่า: การจัดการประชุมครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับความร่วมมือทวิภาคีระหว่างองค์กรเยาวชนสิทธิมนุษยชนและศูนย์สิทธิมนุษยชนละตินอเมริกา
ในเรื่องนี้ เขากล่าวเสริมว่าควรจัดตั้งแนวร่วมขึ้นในทุกส่วนของโลกเพื่อต่อต้านอเมริกาและอาชญากร เพราะใบหน้าที่โหดร้ายและอันตรายของอเมริกาได้รับการพิสูจน์แล้วต่อมวลมนุษยชาติ
เขาได้ชี้ถึงการกดขี่ของสหรัฐอเมริกาต่อชาวเวเนซุเอลาว่า: เมื่อพิจารณาถึงตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ของเวเนซุเอลาแล้ว อเมริกามีความละโมบในความมั่งคั่งทางเหมืองแร่และทรัพยากรของมนุษย์ แต่การสมรู้ร่วมคิดของอเมริกาต่อประชาชนในประเทศนี้ได้ล้มเหลว
Mr. Angel Rafael Tortolero Leal อาจารย์มหาวิทยาลัย นักวิเคราะห์กิจการระหว่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูตเวเนซุเอลาประจำปาเลสไตน์และไซปรัส กล่าวในตอนหนึ่งของการเสวนาว่า เป็นเรื่องยากและเป็นไปไม่ได้ที่ประธานาธิบดีที่มีลักษณะเหมือนฮูโก ชาเวซ และประชาชนและรัฐบาลของเวเนซุเอลาจะมีความสัมพันธ์กับประเทศอเมริกาที่เข่นฆ่าผู้หญิง เด็ก คนแก่และเด็กๆด้วยวิธีที่ขี้ขลาด
ผู้บรรยายคนสุดท้ายของการเสวนานี้คือ Amin Ansari เลขาธิการองค์กรเยาวชนเพื่อสิทธิมนุษยชนจากอิหร่าน ซึ่งเป็นแขกพิเศษในเวเนซุเอลา โดยที่เขาได้กล่าวถึงรากเหง้าของคำว่าสิทธิมนุษยชนอเมริกัน และคนที่ตั้งชื่อ “สัปดาห์สิทธิมนุษยชนอเมริกัน” คือท่านผู้นำสูงสุดอิหร่าน
เลขาธิการองค์กรยุวชนสิทธิมนุษยชนอิหร่านกล่าวว่า: ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลามได้พบกับตัวแทนของรัฐบาลในการประเมินผลการปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติ และย้ำถึงความจำเป็นในการติดตามคดีสำคัญหลายคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมด้านสิทธิมนุษยชนโดย สหรัฐอเมริกา และชี้ให้เห็นกรณีเฉพาะหลายกรณี รวมทั้งคุกกวนตานาโม
ที่มา/ fa.abna24.com
