เปิดแฟ้มประวัติ อยาตุลลอฮ์ อัลอุซมา ศอฟี ฆุลพัยกานี มัรเญียะ ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกอิสลาม อายุ 103 ปี
ท่านอยาตุลลอฮ์ อัลอุซมา เชคลุตฟุลลอฮ์ ศอฟี ฆุลพัยกานี เกิดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.1919 ในเมืองกุลพัยกาน
บิดาของท่านชื่อ มัรฮูม อยาตุลลอฮ์ ออคุน มุลา มุฮัมมัด ญะวาด ศอฟี เป็นอุลามาอฺสายอิรฟาน นอกเหนือจากความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแล้ว ยังมีความโดดเด่นในเรื่อง การวิจัย การเขียน และการสอนในสาขาต่างๆ ในศาสตร์อิสลาม เช่น นิติศาสตร์ อุศูล เทววิทยา จริยธรรม อัลหะดีษ และ ในสาขาศิลปะอันทรงคุณค่า เช่น กวีนิพนธ์และยังมีความเช่ยวชาญในการประดิษฐ์ตัวอักษรอีกด้วย
มารดาของท่านชื่อ ฟาติมะฮฺ เป็นบุตรสาวของมัรฮูม อยาตุลลอฮ์ มุลลา ออคุน มุฮัมมัด อะลี เป็นสตรีที่ประเสริฐ เป็นนักกวีผู้มีความรักในแนวทางของอะห์ลุลบัยต์ เปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะทางจิตวิญญาณและศีลธรรมที่ยิ่งใหญ่เช่น ความนอบน้อม ความบริสุทธิ์ใจ ความยำเกรง มะอฺรีฟัตต่อพระองค์ ความกล้าหาญ เป็นต้น
การศึกษา
ช่วงวัยหนุ่ม ท่านเริ่มเรียนหนังสือขั้นพื้นฐานของวรรณคดีอาหรับในเมือง กุลพัยกาน กับมุลลา อะบุลกอเซม ต่อด้วยวิชาวรรณกรรม เทววิทยา ตัฟซีร หะดีษ นิติศาสตร์ และอุศูล จนจบระดับพื้นฐานที่นั่น
จากนั้นท่านได้เดินทางออกจากเมืองกุลพัยกาน และเดินทางเข้าเมืองกุม เพื่อศึกษาต่อในสถาบันศาสนาแห่งเมืองกุม จากบรรดาคณาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองกุม และต่อมาท่านก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อ ณ เมืองนะญัฟ อัชรอฟ ประเทศอิรักกับบรรดาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของสถาบันศาสนาเมืองนะยัฟ เป็นระยะเวลาหนึ่งปี
อาจารย์
อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สำคัญของท่าน ในเมืองกุม คือ ซัยยิด มุฮัมมัดตะกี คอนซารี อยาตุลลอฮ์ ฮุจญัต อยาตุลลอฮ์ศ้อรด์ และอยาตุลลอฮ์ บรูเญรดี เป็นต้น
สำหรับอาจารย์ของท่านในเมืองนะยัฟ คือ อยาตุลลอฮ์ เชค มุฮัมมัดกอเซม ชิรอซี ซัยยิดญะมาลุดดีน กุลพัยกานี(อาจารย์ด้านอิรฟาน) และเชคมุฮัมมัด อาลี กาซิมี เป็นต้น
ตำแหน่งทางการเมือง
หลังการปฏิวัติอิสลาม ท่านเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ อาทิ
สมาชิกสมัยแรกของ The Guardian Council ( สภาพิทักษ์) ซึ่งแต่งตั้งโดยอิมามโคมัยนีเมื่อปี 1980
เลขาธิการสภาพิทักษ์คนแรกเมื่อปี 1980-1985
สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญแห่งชาติเมื่อปี 1979
คุณลักษณะที่โดดเด่นของท่าน
ความสันโดษ ความยำเกรง ความเพียงพอ (กะนาอะห์) การมอบหมายยังพระองค์ ใจกว้าง สำเนียงการพูดที่ชัดเจน การกำชับในการทำความดีและการห้ามปรามความชั่ว ซึ่งเหล่านี้เป็นคุณลักษณะสำคัญทางจิตวิญญาณและศีลธรรมที่สำคัญของท่าน
ท่านเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความรักต่ออะห์ลุลบัยตฺ (อ) อย่างมาก โดยเฉพาะท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) ท่านจะอ่านดุอาอฺ อะห์ด ทุกครั้งหลังนมาซ และจะเอื้อนเอ่ยประโยคนี้ทุกครั้ง
اَلْعَجَلْ اَلْعَجَلْ يَا مَوْلَايَ يَا صَاحِبَ الزَّمَانِ
และในทุกเย็นวันศุกร์ ท่านจะไปยัง มัสยิดญัมกะรอน
ท่านเป็นอาจารย์สอน เ้ป็นนักวิจัย และเชี่ยวชาญในสาขาศาสตร์อิสลามต่างๆ เช่น นิติศาสตร์ อุศูล เทววิทยา หะดีษ ริญาล และ ฯลฯ ผลงานด้านงานเขียนหนังสือของท่าน มีมากกว่า 150 เล่ม ซึ่งถูกตีพิมพ์เป็นภาษาเปอร์เซีย อาหรับและภาษาอื่นๆ
ท่านมีความเป็นห่วงเป็นใยในเหตุการณ์ปัจจุบันมาก ได้ติดตามข่าวคราวและประเด็นกระแสข่าวโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลกอิสลามผ่านสื่อต่างๆ เนื่องจากท่านมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์และการเมืองที่กว้างขวาง จึงสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ระดับภูมิภาค ระดับโลก และอิสลามได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในความหมายที่แท้จริงของคำว่า “ผู้รู้แห่งยุคสมัย”
อยาตุลลอฮ์ อัลอุซมา เชคลุตฟุลลอฮ์ ศอฟี ฆุลพัยกานี มัรเญียะผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกอิสลามได้กลับสู่ความเมตตาของพระองค์ด้วยโรคชรา เมื่อคืนที่ผ่านมา (อังคารที่1 กุมภาพันธ์ 2022) สิริอายุรวม 103 ปี ณ โรงพยาบาล กุลพัยกานี เมืองกุม
ทั้งนี้ พิธีนมาซมัยยิตของท่านจะมีขึ้นในวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2022 และจะทำการฝังในฮะรัมของท่านอิมามฮุเซ็น (อ) ณ เมืองกัรบะลาอฺ ตามคำสั่งเสียของท่าน
วันนี้โลกอิสลามได้สูญเสียอุลามาและมัรเญียผู้ยิ่งใหญ่ที่มีจรรยามารยาทตามแบบฉบับของอิสลามอย่างแท้จริง ท่านเปรียบเสมือนชัยคุลฟุกาฮาแห่งโลกอิสลาม ตลอดอายุขัยของท่านได้รับใช้รัฐอิสลามแห่งอิหร่านและโลกอิสลามอย่างมากมาย ผลงานของท่านนับเป็นคุณูปการอันใหญ่หลวง
ท่านได้สอนหนังสือร่วมหกสิบปีกว่าปี และผลิตลูกศิษย์ลูกหาอย่างมากมายเพื่อส่งมอบสู่สังคมและท่านยังได้เขียนตำราและทิ้งผลงานทางวิชาการนับหลายร้อยเล่มให้เป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ที่แสวงหาความรู้ทางศาสตร์หลายแขนงด้วยกัน
ขอพระองค์ทรงรับดวงวิญญาณของท่านด้วยความเมตตาและความโปรดปราน ขอให้ท่านได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่จากพระองค์และขอให้ท่านได้นั่งอยู่ในสำรับของอะห์ลุลเบตด้วยเทอญ
ขอให้พระองค์ทรงรับดวงวิญญาณอันบริสุทธิของท่าน ขอให้ท่านได้นั่งอยู่ในสำรับของอะห์ลุลเบตและอยู่ภายใต้ร่มเงาและแห่งอะลุลบัยต์ ด้วยเถิด….อามีน
แฟ้มภาพ ท่านจูบมือนักการศาสนาชาวแอฟริกาเมื่อแปดปีที่ผ่านมาในพิธีสวมใส่ชุดนักการศาสนา (อามาม่า) บ่งบอกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตนของท่าน