หลานชายกษัตริย์ซาอุฯ แฉความชั่วร้ายของลัทธิวะฮาบี !
ตุรกี บิน บันดัร บิน มุฮัมมัด บิน อับดุลรอฮ์มาน อาลิซาอูด หลานชายของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียซึ่งกลายเป็นศัตรูคนสำคัญและเป็นผู้ต่อต้านระบอบอาลิซาอูด พักอาศัยอยู่ในปารีส ได้เข้าร่วมการประชุมประจำสัปดาห์กับกลุ่มบุคคลสำคัญทางวัฒนธรรม นักคิด นักการเมือง และนักข่าว เกี่ยวกับความเชื่อที่เป็นเท็จของลัทธิวะฮาบีที่มีต่อชีอะฮ์ ซ้ำยังเปิดโปงระบอบอาลิซาอูดและได้อธิบายถึงความสูงส่งของชีอะฮ์เหนือลัทธิวะฮาบี โดยกล่าวว่า: ชาวชีอะฮ์แสวงหาความใกล้ชิดยังพระเจ้ามากขึ้นด้วยการไปเยี่ยมเยียน (ซิยารัต) อิมามฮุเซน (อ) กลับกันกับชาวสะลาฟีที่เข้าใกล้ชัยตอน (มารร้าย) มากขึ้นด้วยการเข่นฆ่าชีอะฮ์ โดยสร้างความเชื่อที่ว่า พวกเขากำลังเข้าใกล้พระเจ้า!
ตุรกี บิน บันดัร กล่าวเสริมอีกว่า: ชาวชีอะฮ์ไม่ทำบาป แต่ชาวสะลาฟีทำบาปด้วยการสังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ ซึ่งมันเป็นบาปใหญ่และศาสนาอิสลามห้ามกระทำสิ่งนี้โดยเด็ดขาด ชาวสะละฟีไม่มีสิทธิ์ที่จะสังหารผู้ปฏิบัติตามอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) ด้วยการที่พวกเขามีความต่างในด้านความคิด
อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า ตุรกี บิน บันดัร เคยถูกกล่าวหาโดยนักวิชาการแห่งราชสำนัก ว่าเป็นพวกนอกรีตและเป็นผู้ปฏิเสธ (กุฟร์) ในข้อหาวิพากษ์วิจารณ์กษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย ในอดีต ฉันได้ยินมาว่าชาวชีอะฮ์ที่ปฏิเสธการเป็นคอลีฟะห์ของ อบูบักร์ อุมัร และอุศมาน จะเป็นพวกนอกรีต และในปัจจุบันนี้ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ทุกคนที่ต่อต้านผู้ปกครองทางการเมืองก็จะถูกนักวิชาการแห่งราชสำนัก กล่าวหาเป็นพวกนอกรีตเช่นกัน
เขากล่าวเสริมว่า : อบูบักร์ อุมัร และอุศมาน เป็นผู้ปกครองทางการเมืองและทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงการคัดค้าน ต่อต้านและขัดแย้งต่อพวกเขา เพราะนี่คือจุดสูงสุดของประชาธิปไตย การใช้คำว่า รอฟีเฏาะฮ์ กับชาวชีอะฮ์ ก็เกิดจากการคัดค้านนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า ชาวชีอะฮ์ จะไม่ได้ทำอะไรผิด
นอกจากนั้นเขายังได้อ้างถึงการมีอยู่ของหน่วยพิเศษที่เรียกว่า “รอฟีเฏาะฮ์ ” ในกระทรวงข่าวกรองของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเฉพาะในหน่วยงานนี้มีงบประมาณเท่ากับงบประมาณทั้งหมดของประเทศตูนิเซีย จอร์แดนและเยเมน ภารกิจหรือหน้าที่หลักของหน่วยงานนี้คือ การทำลายมัศฮับ (นิกาย) ชีอะฮ์ โดยการจัดพิมพ์หนังสือที่เต็มไปด้วยคำโกหกมดเท็จและจะทำการแจกจ่ายในช่วงเทศกาลฮัจญ์และเทศกาลอื่นๆ อีกทั้งยังชักชวนให้มีการสังหารพี่น้องชีอะฮ์อีกด้วย
อุลามาอ์กำมะลอขี้ข้าราชวงศ์ซาอุฯ
อดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงข่าวกรองซาอุดิอาระเบียกล่าวเสริมว่า : สมัยที่ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงข่าวกรอง ทางกระทรวงได้จ่ายเงินถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับนักการศาสนาชีอะฮ์เลบานอน ซึ่งเป็นขี้ข้าและสมุนรับจ้างราชวงศ์ซาอูด และในขณะเดียวกัน ก็ได้ขอให้เปิดช่องเครือข่ายดาวเทียม ทำสื่อและหนังสือพิมพ์ เพื่อทำการลบหลู่ความเชื่อของชีอะฮ์และเรียกการไว้ทุกข์ให้กับอิมามฮุเซ็น (อ) ว่า เป็นอุตริกรรม ช่วยแก้ต่างเพื่อให้อุมัรพ้นผิดจากการเป็นจำเลยในคดีที่นำไปสู่การเป็นชะฮีดของท่านหญิงฟาตีมะฮ์ (อ)
นอกจากนั้นยังได้ตีความโองการ
لا تقربوا الصلوة و انتم سکاری
(ความว่า จงอย่าเข้าใกล้การละหมาด ขณะที่พวกเจ้ากำลังมึนเมา)
โดยการลบหลู่ ใส่ร้ายท่านอิมามอะลี (อ)
และยังตัดประโยค
و ا شهد ان علیا ولی الله
ออกจากการอะซาน เป็นต้น…….
อดีตเจ้าหน้าที่ของกระทรวงข่าวกรองซาอุดิอาระเบียยังย้ำอีกว่า: “หลังจากการเสียชีวิตของนักการศาสนาขายตัวคนดังกล่าว ก็มีสมุนรับจ้างใหม่ที่ยังคงดำเนินต่อไปในเส้นทางนี้ และตอนนี้เรากำลังเห็นการจัดสรรเงินหลายล้านดอลลาร์เพื่อทำให้ชื่อเสียงของชีอะฮ์ในอิรักได้รับความมัวหมอง แต่ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้เปล่าประโยชน์ มีแต่เพียงเพียงบุคคลที่โง่เขลาเบาปัญญาเท่านั้นที่สนับสนุนโครงการเหล่านี้”
ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ล้าหลัง ปกครองโดยกลุ่มโจรที่หมกมุ่นอยู่กับสุรานารีตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นก็แต่ในระหว่างการละหมาดเท่านั้น อีกทั้งยังได้ถลุงทรัพย์สินของชาติให้กับนักเต้นระบำหญิงและบรรดาฆาตกร ช่างอนาถแท้ !!!
อ้างอิง
tasnimnews.com/fa/news