การเสียสละของท่านหญิงฟาตีมะห์(อ) ในการต้อนรับแขกอาหรับชนบทผู้ยากจน

20

การเสียสละของท่านหญิงฟาตีมะห์(อ) ในการต้อนรับแขกอาหรับชนบทผู้ยากจน

การต้อนรับแขกสำหรับผู้เป็นสามีนั้นขึ้นอยู่กับความเสียสละและการให้บริการของภรรยา หากจะกล่าวว่าท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี อิบนิอะบีฏอลิบ (อ.) เป็นผู้ที่ต้อนรับและมีอัธยาศัยที่ดีต่อแขก และจะมีความรู้สึกเหงาหง่อยเศร้าใจหากไม่มีแขกมาเยือน หรือให้บริการที่ไม่ประทับใจต่อแขกแล้ว เหตุผลประการหนึ่งก็เนื่องมาจากความมั่นใจของท่านต่อความพร้อมและการให้การต้อนรับแขกของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่งได้กล่าวว่า

رئى اميرالمؤمنين عليه‏السلام حزينا فقيل له: مم حزنك؟ قال: لسبع اتت لم يضف الينا

ท่านอะมีรรุลมุอ์มินีน (อ.) ถูกพบเห็นอยู่ในสภาพที่เศร้าสร้อย มีผู้ถามท่านว่า “ทำไมท่านถึงดูเศร้าสร้อยเช่นนี้” ท่านตอบว่า “เนื่องจากเวลาได้ผ่านมาเจ็ดวันแล้วโดยที่ไม่มีแขกมาเยือนเราเลย”

วันหนึ่งมีชาวอาหรับชนบทผู้ยากจนคนหนึ่งได้มาพบท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ในสภาพที่ทุกข์ทรมานจากความหิว เขาได้ร้องทุกข์โอดครวญต่อท่านศาสนทูตแห่งอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) เกี่ยวกับความหิวของตน ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้ส่งคนไปดูตามบ้านภรรยาทั้งหลายของท่านเพื่อให้พวกนางจัดเตรียมอาหารเลี้ยงแขก แต่ทุกคนกล่าวเหมือนกันว่า “เราไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากน้ำ”

ท่านศาสดาจึงได้ปฏิบัติเช่นเคยตามปกติโดยขอความช่วยเหลือจากมุสลิมคนอื่นๆ ว่าใครที่จะรับเอาบุรุษผู้หิวโหยคนนี้เป็นแขกของตน และก็เป็นเหมือนเช่นเคยที่ท่านอะลี (อ.) ได้ตอบรับสิ่งนั้น และได้พาชาวอาหรับผู้นั้นไปยังบ้านของตน และขอให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) ช่วยจัดการในเรื่องนี้ ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ อัซซะฮ์รอ (อ.) กล่าวว่า

ما عندنا إلا قوت الصبية ولكنا نؤثر به ضيفنا

“เราไม่มีอาหารอะไรมาก นอกจากปริมาณอาหารของเด็กคนหนึ่ง แต่เราก็พร้อมที่จะเสียสละสิ่งนั้นให้กับแขกของเรา (และเรายอมที่ตนเองจะอยู่ในความหิว)”

ท่านอิมามอะลี (อ.) จึงกล่าวกับท่านหญิงว่า

نومي الصبية وأنا أطفئ للضيف السراج

“เธอจงทำให้เด็กๆ หลับ ส่วนฉันจะดับไฟรับรองแขก”

ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) ได้ปฏิบัติตามที่ท่านอะมีรุลมุอ์มินีน (อ.) ต้องการ คือทำ (วิธีใดก็ได้) ให้ลูกๆ หลับโดยไม่ต้องรับประทานอาหาร และตนเองก็จะต้องอยู่ในสภาพของผู้ที่มีความหิวเช่นกัน และ (เพื่ออำพรางมิให้แขกได้ล่วงรู้ถึงสิ่งนั้น) ท่านได้ดับไฟในบ้าน และรับรองแขกในความมืดยามค่ำคืน และให้เขารับประทานอาหารจนอิ่ม ในขณะเดียวกันก็แสดงตนประหนึ่งว่าร่วมรับประทานอาหารกับแขกด้วย เพื่อไม่ให้แขกรู้สึกไม่สบายใจ

ช่วงเวลาค่ำคืนได้ผ่านไป และช่วงเวลาเช้าตรู่ท่านได้ยังมัสยิดและได้พบกับท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ท่านศาสดาเมื่อได้มองเห็นท่านอะลี (อ.) ท่านก็ร้องไห้ และกล่าวว่า “เมื่อคืนมวลมะลาอิกะฮ์ของพระผู้เป็นเจ้าต่างพิศวงต่อการรับรองแขกของพวกเจ้า และในเหตุการณ์นี้โองการที่ 9 ของบทอัลฮัชรุ์ ก็ได้ถูกประทานลงมาเกี่ยวกับพวกเจ้าว่า

و يؤثرون على انفسهم و لو كان بهم خصاصة

“และพวกเขาได้เสียสละให้แก่ผู้อื่นก่อนตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะมีความต้องการสักปานใดก็ตาม”

ประเด็นดังกล่าวนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ให้เห็นว่า ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อ.) เป็นผู้ที่มีความเสียสละเพียงใด และมีส่วนสำคัญเพียงใดในการส่งเสริมจิตวิญญาณแห่งการเสียสละให้แก่สามีและลูกๆ ของท่าน