การรู้จักพระเจ้า (ตอนที่๕)
คุณลักษณะของพระเจ้า
คุณลักษณะถาวรของพระเจ้าโดยทั่วไปอาจแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ คุณลักษณะถาวรและคุณลักษณะเชิงนิเสธ หรือคุณลักษณะอันงดงามและคุณลักษณะอันสูงส่ง
คุณลักษณะถาวร
คือคุณลักษณะที่เป็นส่วนสมบูรณ์ของแก่นแท้การมีอยู่ และทำให้คุณค่าของสิ่งที่มีคุณลักษณะนั้นเพิ่มขึ้น และตัวตนของสิ่งนั้นก็จะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เรียกว่า คุณลักษณะถาวรและคุณลักษณะอันงดงาม เช่น ความรู้ อำนาจ การมีชีวิต การพูด และเจตนารมณ์
หากเรานำสิ่งมีชีวิตสองสิ่งมาเปรียบเทียบกัน สิ่งหนึ่งเป็นผู้รู้ อีกสิ่งหนึ่งเป็นผู้ไม่รู้ เราก็จะเข้าใจได้ในตัวของเราว่า สิ่งที่เป็นผู้รู้นั้นย่อมสมบูรณ์แบบกว่า มีผลมากกว่า และมีความโดดเด่นกว่าสิ่งที่เป็นผู้ไม่รู้ ด้วยเหตุนี้ เองเราก็สามารถตัดสินได้แล้วว่า ความรู้คือความสมบูรณ์แบบหนึ่งของแก่นแห่งการมีอยู่ ส่วนคุณลักษณะอันสมบูรณ์อื่นนั้นก็สามารถรู้จักได้ด้วยกับการเปรียบเทียบดังกล่าว
พระเจ้าแห่งโลกนี้ มีคุณลักษณะอันสมบูรณ์แบบและงดงามยิ่งทั้งหมดนั้นดำรงอยู่กับองค์ของพระองค์ เพื่อสนับสนุนประเด็นนี้ ขอยกหลักฐานง่าย ๆ สองประการดังนี้
หลักฐานที่ 1 ทุกความสมบูรณ์และความดีงามที่มีอยู่ในโลกนี้นั้น พระเจ้าล้วนสร้างมันขึ้นมา และได้ประทานให้กับสิ่งถูกสร้างทั้งหลายเพราะดังที่รับทราบกันดีว่า สิ่งถูกสร้างทั้งหลายล้วนต้องพึ่งพิงยังพระองค์ ในแก่นแห่งการมีอยู่ของตนเอง ในด้านความสมบูรณ์แบบของการมีอยู่และคุณลักษณะอันงดงามต่างๆก็ต้องพึ่งยังพระองค์เช่นกัน เมื่อพระเจ้าทรงให้แก่นแท้การมีอยู่แก่พวกเขาและไม่มีความเป็นเอกภาพในตัวตน ความสมบูรณ์ต่างๆของการมีอยู่ก็ต้องได้มาจากพระองค์ด้วยเช่นกัน ฉะนั้น ผู้สร้างสิ่งถูกสร้างทั้งหลายและคุณลักษณะอันสมบูรณ์แบบนั้นก็คือพระเจ้า
ถึงตอนนี้ หากท่านพิจาณาสักครู่ ปัญญาของท่านก็จะบอกว่า พระเจ้าผู้ซึ่งประทานทุกความสมบูรณ์แบบให้แก่สิ่งถูกสร้างนั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้เลยที่องค์ของพระองค์จะปราศจากซึ่งความสมบูรณ์แบบที่ว่านั้น หากตัวเองไม่มี ก็ย่อมไม่อาจให้ผู้อื่นได้ ฉันใดก็ฉันนั้น เพราะที่มาและต้นกำเนิดของความสมบูรณ์แบบทั้งหลายไม่อาจว่างเปล่าจากความสมบูรณ์ต่างๆนั้นได้ ตะเกียงที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง ย่อมไม่อาจให้แสงสว่างแก่สิ่งใดได้เลย น้ำมันหล่อลื่นที่ไม่มีความหล่อลื่น ย่อมไม่อาจให้ความหล่อลื่นแก่สิ่งใดได้ น้ำที่ไม่มีความเปียกในตัวเอง ย่อมไม่อาจทำให้สิ่งใดเปียกได้ ฉันใดก็ฉันนั้น
หลักฐานที่ 2 องค์ของพระเจ้านั้นคือการมีอยู่อันสมบูรณ์แบบไร้ซึ่งขอบเขตและความบกพร่องใด เมื่อไม่มีขอบเขตและไม่มีข้อบกพร่องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยสิ่งอื่นใดและไม่จำเป็นต้องรับเอาการดำรงอยู่ของตนเองจากสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น ก็หมายความว่า พระองค์เป็น“วาญิบุ้ลวุญูด” (การมีอยู่อันจำเป็นอย่างยิ่ง) ฉะนั้น ทุกคุณลักษณะอันมาจากความสมบูรณ์แห่งการมีอยู่นั้นย่อมมีอยู่ในพระเจ้า โดยไม่มีขอบเขตจำกัดในองค์ของพระเจ้าและไม่อาจขาดคุณลักษณะอันสมบูรณ์แบบนั้นไปได้ หากองค์ของพระเจ้าไม่มีความสมบูรณ์แบบแล้วไซร้ ก็ย่อมต้องมีการพึ่งพาและมีความจำกัด แล้วจะเป็น “วาญิบุ้ลวุญูด” และ “ไม่ต้องการสิ่งอื่นใด” ได้อย่างไรจากหลักฐานประการนี้และก่อนหน้านี้ ก็สรุปเป็นผลได้ว่า องค์ของพระเจ้าแห่งโลกนี้ มีความบริบูรณ์และไร้ซึ่งขอบเขตใด และมีคุณลักษณะอันสมบูรณ์แบบทั้งหมดแห่งการมีและคุณลักษณะถาวร