การรู้จักพระเจ้า (ตอนที่๓)

3

การรู้จักพระเจ้า (ตอนที่๓)

ช่วงวัยเด็ก

ตอนนี้ เราก็มาพิจารณาอีกช่วงเวลาหนึ่งของเราทั้งหลาย เมื่อตอนที่เราเกิดมานั้น เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ความสามารถอย่างยิ่ง เราไม่อาจเดินเพื่อไปเตรียมหาอาหารมาให้ตัวเองได้ มือของเราไม่มีกำลังพอที่จะหยิบจับอาหาร ไม่มีฟันที่จะขบเคี้ยวอาหาร กระเพาะอาหารของเรายังไม่สามารถย่อยสลายอาหารได้ ในช่วงวัยเด็กนั้นสำหรับเราแล้วไม่มีอาหารใดที่จะเหมาะสมยิ่งไปกว่าน้ำนมอีกแล้ว

เมื่อตอนที่เราลืมตาดูโลกนั้น น้ำนมบริสุทธิ์ถูกพบอยู่ในเต้านมของมารดาของเรา ความรักความเมตตาต่อเรานั้นถูกฝังอยู่ในจิตใจของมารดาของเราเพราะรักเรานั่นเองที่ทั้งคืนทั้งวันนางต้องสาละวนอยู่กับการดูแลเรา นางอดทนต่อความเจ็บปวดและความเหนื่อยยากนานัปการเพื่อให้นมเรา เมื่อเราโตขึ้นมาหน่อย มือ เท้า ตา หู กระเพาะอาหาร และลำไส้ของเราก็มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น เราต้องการรับประทานอาหารที่หนักขึ้น ฟันของเราก็ต้องค่อย ๆ งอกขึ้นมาเพื่อจะได้รับประทานอาหารหลากชนิดขึ้น

จงตัดสินซิว่า ใครเป็นผู้มอบสิ่งเหล่านี้ให้แก่เราและในตอนที่เรายังเด็กและไร้ความสามารถอยู่นั้นใครเป็นผู้ประมาณการณ์ความต้องการของเราไว้แล้ว ? ใครเป็นผู้สร้างโลกอันกว้างใหญ่ไพศาล ดวงดาวใหญ่น้อย ดวงอาทิตย์อันเจิดจ้า ? ใครสร้างโลกขนาดมหึมานี้และให้มันโคจรไปด้วยกับระบบและความเป็นระเบียบอันละเอียดอ่อน ?

ใครกันเล่าที่ให้ผืนแผ่นดินและดวงจันทร์โคจรไปตามการคำนวณอันแม่นย้ำ ? การดำเนินการที่สอดคล้องต้องกันของกลางวัน กลางคืน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาวนั้นเป็นไปตามการจัดการดูแลที่ทรงพลังของผู้ใด ? ใครกันที่สร้างดวงตา หู ลิ้น กระเพาะอาหาร หัวใจ ไต ตับ ลำไส้ ปอด มือ เท้า สมอง เส้นประสาท และอวัยวะอื่นของร่างกายเราด้วยกับความเป็นเลิศและทักษะเช่นนี้

เป็นไปได้หรือที่ว่า ธรรมชาติอันไร้การรับรู้และเจตนารมณ์จะเป็น ปฐมเหตุของการเกิดร่างกายและอวัยวะที่น่าพิศวงของมนุษย์และสัตว์ เช่นนี้ ในสภาพที่อวัยวะแต่ละส่วน เช่น ดวงตาที่สามารถทำงานได้อย่างละเอียดและซับซ้อนซึ่งนักวิชาการที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยอย่างมากมายก็ยังไม่สามารถเข้าถึงงานอันสลับซับซ้อนของอวัยวะนั้น ?

ไม่มีวันและไม่มีทางเป็นไปได้ แต่พระเจ้าผู้ทรงเมตตาองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งและบริหารจัดการโลกอันใหญ่โต พระองค์นั่นเองซึ่งทรงดำรงอยู่แต่กาลก่อนและยังคงดำรงอยู่และประทานให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นมา พระเจ้าทรงรักบ่าวของพระองค์และพระองค์ทรงสร้างความโปรดปรานมาให้แก่พวกเขา เรารักพระเจ้าผู้ทรงกรุณา เรานบนอบต่อพระองค์ เชื่อฟังปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ นอกจากพระองค์แล้ว เราไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดหรือบุคคลใดคู่ควรต่อการเคารพภักดี และเราจะไม่มีวันสยบยอมและยอมเป็นทาสแก่ผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้น