รู้จัก “มัสยิดฮัจญะห์ ฟาติมาห์” อายุ 175 ปี ”หอเอน”สิงคโปร์
มัสยิดฮัจญะห์ฟาติมาห์(Hajjah Fatimah Mosque) เป็นหนึ่งในมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ และได้รับการขนานนามว่าหอเอนสิงคโปร์เนื่องจากการเอียงเล็กน้อยของหอคอยสุเหร่า
มัสยิดฮัจญะห์ ฟาติมาห์ ในกัมปงกลาม ยังคงรักษาสถานภาพของมันไว้ได้ในพื้นที่ที่มีชื่อเสียงจากอาคารที่โดดเด่น เช่น มัสยิดสุลต่าน
มัสยิดแห่งนี้เป็นมัสยิดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ และถูกเรียกว่า หอเอนแห่งสิงค์โปร เนื่องจากการเอียงเล็กน้อยของหอคอยสุเหร่า
แต่มัสยิดซึ่งมีอายุมากกว่า 170 ปี ต้องการการบำรุงรักษาแลและซ่อมแซม และกองทุนอนุสรณ์สถานแห่งชาติสิงคโปร์ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างมากในเรื่องนี้
มัสยิดฮัจญ์ญะห์ ฟาติมาห์ เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 20 แห่ง ซึ่งในปี2020 และ2021 ได้รับเงินบริจาครวม 2.24 ล้านดอลลาร์จากกองทุนเพื่อการซ่อมแซมและบำรุงรักษา
คณะกรรมการมรดกแห่งชาติกล่าวในแถลงการณ์ว่ามัสยิดฮัจญ์ญะห์ ฟาตีมาห์เป็นหนึ่งใน 20 อาคารประวัติศาสตร์ที่ได้รับเงินจำนวน 2.24 ล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างใหม่และการบำรุงรักษา
กองทุนดังกล่าวเปิดขึ้นในปี 2008 เป็นโครงการร่วมทุนที่บริหารจัดการโดยคณะกรรมการมรดกแห่งชาติ
อาคารดังกล่าวมีองค์กรไม่แสวงหากำไรหรือองค์กรทางศาสนาเป็นเจ้าของ
งบประมาณค่าจ่ายสำหรับงานสองประเภทคือการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมและการจ่ายเงินจะได้รับการประเมินตามความต้องการที่จำเป็นและความเร่งด่วนของงานที่ต้องการ
คณะกรรมการมรดกแห่งชาติยังประเมินการใช้งานโดยพิจารณาจากความสามารถในการจัดหาเงินทุนที่จำเป็นของเจ้าของอาคาร โดยคำนึงถึงความต้องการทางการเงินของเจ้าของอาคารและทรัพยากรทางการเงินที่มีสำหรับเจ้าของอาคาร
มัสยิดฮัจญ์ญะห์ ฟาตีมาห์ อายุ 175 ปี ได้รับเงิน 30,623 ดอลลาร์สำหรับงานบูรณะในปี 2021
มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยฮัจญะห์ ฟาติมาห์ มีพื้นเพมาจากครอบครัวชาวมะละกาผู้มั่งคั่ง
มัสยิดของเขาได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษที่ไม่ทราบชื่อ กล่าวกันว่าหอคอยสุเหร่านี้ได้รับการออกแบบโดย John Turnbull Thomson เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกับการออกแบบพวงหรีดแรกของมหาวิหารเซนต์แอนดรูว์อย่างน่าทึ่ง แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันเรื่องนี้
มัสยิดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1846 และส่งผลให้หอคอยเอียงเล็กน้อย (ประมาณ 6 องศา) จากศูนย์กลาง
ตัวอาคารใหญ่ของมัสยิดถูกสร้างขึ้นใหม่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ตามการออกแบบของสถาปนิกชองและหว่อง และสร้างโดยผู้รับเหมาชาวฝรั่งเศสที่มีคนงานมาเลย์
ในการสร้างมัสยิดขึ้นใหม่ ได้มีการเพิ่มองค์ประกอบของอิสลามเข้าไป และมีการใช้รูปแบบต่างๆ ร่วมกันในการออกแบบมัสยิดใหม่แห่งนี้
ที่มา shabestan.ir