อิสลามกับการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่การใช้ความคิด และการแสวงหาความรู้

5

อิสลามได้ให้ความสำคัญอย่างมากต่อการใช้ความคิด และเรียกร้องให้มีผู้มีปัญญาทั้งหลายได้ใช้ความคิดอย่างมากในเรื่องการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้ากาลเวลา กลางวัน และกลางคืน ท้องฟ้าและผืนแผ่นดิน สิ่งสาราสัตว์ มนุษย์และความเป็นไปในโลก พวกเขาจะต้องค้นคว้าและตรวจสอบวิถีชีวิตของบรรพชนในอดีต ศึกษาถึงสาเหตุแห่งความตกต่ำของคนเหล่านั้น เพื่อที่ได้ดำเนินชีวิตของตัวเองไปให้พ้นจากวิถีแห่งความหายนะ เช่น คนพวกนั้น

ใช่แล้ว อิสลามต้องการให้มนุษย์อย่างมีอิสระ และลุ่มลึก เพื่อที่จะได้ล่องลอยไปให้ถึงสุดหล้าแห่งความคิดและศิลปะวิทยาการ อีกทั้งให้ได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุดต่อการมีชีวิตของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้เอง ที่อิสลามให้คุณค่าต่อความก้าวหน้าของวิทยาการสมัยใหม่และการค้นคว้าวิจัยต่างๆ ที่ยังประโยชน์ให้กับมนุษยชาติ ณ ที่นี้เองที่นักวิชาการอิสลามตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมาไม่เคยหยุดนิ่ง พวกเขาได้ประดับประดา อารยธรรมของมนุษยชาติ ด้วยกับการขวนขวายหาความรู้ของพวกเขา ดังเช่น นามอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาที่คงปรากฏอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของศิลปะวิทยาการในหลายๆแขนง และมันก็ยังคงฉายแสงของมันต่อไป

มร.ยอร์ช ซัยดอน เขียนไว้ในหนังสือ “ประวัติศาสตร์ของอารยธรรมแห่งอิสลาม”ว่า

“เมื่ออารยธรรมของอิสลามได้อุบัติขึ้นแล้ว ความรู้ใหม่ๆ ก็ได้รับการถ่ายทอดในหมู่มุสลิม นักวิชาการมุสลิมได้ก้าวเดินหน้าต่อไป ซึ่งความคิดของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งกว่าบุคคลที่เรียกว่า บิดาของวิทยาศาสตร์ในสาขาหนึ่งสาขาใดเสียอีกและในความเป็นจริง วิชาการในสาขานั้น ๆ มีสีสันขึ้นด้วยกับการวิจัยค้นคว้าของอุละมาอ์อิสลามนั่นเอง และมันได้ก้าวหน้าอย่างเหมาะสมกับอารยธรรมของอิสลาม”

มร. วอลเบอร์ลี่ เขียนว่า “หากอิสลามหลุดออกมาจากแก่นกลางของประวัติศาสตร์ ห้วงเวลาแห่งการรื้อพื้นศิลปะวิทยาการของยุโรปจะล้าหลังไปหลายศตวรรษเลยทีเดียว