อิหม่ามนำนมาซวันศุกร์ชั่วคราวในจังหวัด Sanandaj กล่าวว่า มัสยิดซุนนี่เพิ่มขึ้นสี่เท่าในอิหร่านหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม และกล่าวเสริมว่า ไม่มีอุปสรรคใดๆสำหรับพี่น้องซุนนี่ในการศึกษาในระดับสูง
Mamosta Mohammad Amin Rasti ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาการวางแผนการศึกษาของโรงเรียนศาสนาในจังหวัด Sanandaj กล่าวในระหว่างการประชุมเพื่ออธิบายความสำเร็จ 40 ปีของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านว่า :ต้นกำเนิดของสัจธรรม(ฮักก์)ในศาสนาอิสลามมาจากพระประสงค์ของอัลลอฮฺ นั่นหมายความว่าพระองค์เท่านั้นที่ให้สิทธิแก่มนุษย์ ไม่ใช่สิ่งอื่น ในขณะที่หลักคำสอนอื่นที่ไม่ใช่อิสลามถือว่า สัจธรรม ถูกอธิบายว่าเกิดมาจากความประสงค์ของมนุษย์ แต่เมื่อเราพิจารณาและศึกษาอย่างรอบคอบแล้วจะพบว่าคำจำกัดความของสัจธรรมนี้จะย้อนกลับไปสู่พระประสงค์ของพระองค์
เขากล่าวเสริมว่า : กฎหมายของพระองค์เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมและสมบูรณ์ที่สุดสำหรับมนุษย์ และกฎหมายของสาธารณรัฐอิสลามรวมทั้งรัฐธรรมนูญประมวลกฎหมายแพ่ง ประมวลกฎหมายอาญาอิสลามและวิธีการบริหารจัดการกับกฎนั้นล้วนมาจากบัญญัติของอิสลามทั้งสิ้น และไม่มีแม้แต่มาตราเดียวในกฎหมายพื้นฐานของอิหร่านที่มีความคัดแย้งกับกฎหมายของศาสนาอิสลาม ดังนั้นเมื่อระบอบนี้ได้ถอดแบบจากกฎหมายของศาสนาอิสลามแล้ว พวกเขาจึงให้การเคารพในสิทธิของผู้อื่น(ต่างนิกายและต่างศาสนิก)อย่างเคร่งครัด
เขากล่าวถึง รัฐธรรมนูญมาตรา 19 และ 20 ในกฎหมายอิสลามให้ทุกศาสนามีสิทธิทางการเมือง สังคมและวัฒนธรรมภายใต้กฎหมายฉบับนี้
เขากล่าวถึง การวางแผนในโรงเรียนสอนศาสนาของสุนนี่ว่า สาธารณรัฐอิสลามได้จัดตั้งสถาบันศาสนาเพื่อจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับวิถีชีวิตของนักเรียนศาสนาสุนนี่ และจัดตั้งศูนย์ประกันสังคมแก่นักเรียนศาสนาสุนนี่ และให้บริการประกันชีวิต มอบสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นสินเชื่อแต่งงาน กองทุนเพื่อการดำรงชีวิตและ นอกจากนี้ยังได้จัดหาอุปกรณ์เครื่องมือทางการศึกษา อาทิเช่น คอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนและจัดทำห้องสมุดและจ่ายค่าเล่าเรียนให้กับครูและอาจารย์
Mamosta Mohammad Amin Rasti กล่าวว่า นักเรียนสุหนี่ก็ได้รับการสวัสดิการและทุนต่างๆเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง
เขากล่าวเสริมว่า ก่อนการปฏิวัติอิสลามมีนักเรียนสุนนี่ 3,000 คนที่อยู่ในประเทศ แต่ในวันนี้มีนักเรียนศาสนาสุนนี่กำลังศึกษาอยู่ 12,000 คน โดยที่ไม่มีอุปสรรคต่อการศึกษาของพวกเขาและเพื่อจุดประสงค์นี้มีการสร้างโรงเรียนสุนนี่เพิ่มมากขึ้นเป็น 358 โรง จากเดิมก่อนการปฏิวัติแค่ 100 โรง สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสาธารณรัฐอิสลามให้ความสำคัญและใส่ใจในการสร้างเวทีสำหรับการศึกษาของนักเรียนศาสนาสุนนี่ในประเทศ
(ภาพประกอบ… มัสยิด คุลารอชีอดีน ในเมือง คุนคอน อิหร่าน)
อิหม่ามนำนมาซวันศุกร์ชั่วคราวในจังหวัด Sanandaj ได้ชี้ถึงบทบาทของการปฏิวัติอิสลาม ในการสร้างความสมานฉันท์ระหว่างนิกาย ว่า: “รากฐานของสุนนี่และชีอะฮ์เริ่มมาจากไหน? ความแตกต่างของพวกเขาคืออะไร? ซึ่งข้อเท็จจริงของสิ่งนี้คือ แหล่งที่มาของสุนนี่และชีอะฮ์ไม่มีความแตกต่างอันใดเลย และหลักฐานของพวกเขาล้วนมาจากอัลกุรอานอันศักดิ์สิทธิ์ ซุนนะฮ ของท่านศาสดาและฉันทามติ
เขากล่าวเสริมว่า : ความแตกต่างของชีอะฮ์และสุนนีเกี่ยวกับประเด็นข้อปลีกย่อยและความสงสัยซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีเลวและเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความบารอกัตในการศึกษาเพิ่มเติม แต่ความแตกต่างเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่ประเด็นพื้นฐานหลักพวกเขาแต่อย่างใด เพราะทั้งซุนนีและชีอะฮ์คือพี่น้องกัน
Mamosta Mohammad Amin Rasti กล่าวว่า ก่อนการปฏิวัติอิสลามไม่มีการนมาซวันศุกร์และนมาซวันอีดทั้งสองอย่างสำหรับซุนนี่อย่างเป็นทางการ แต่หลังจากการปฏิวัติอิสลาม โปรแกรมเหล่านี้จัดขึ้นอย่างเป็นทางการในประเทศและจำนวนสุเหร่าและมัสยิดของสุนนี่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากมัสยิด 4,000 แห่ง ในวันนี้มีมากถึง 17,000 แห่งและนี่คือความบารอกัตของการปฏิวัติอิสลามอิหร่านที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของศาสนาอิสลามที่ได้ยึดเอาความถูกต้องและสัจธรรมจากพระประสงค์ของพระองค์มาใช้ และนำมามอบให้กับพวกเรา
แหล่งที่มา
mashreghnews.ir