“ทัศนะของท่านอิมามคอเมเนอีต่อกลุ่มมุสลิมที่เป็นอันตรายต่ออิสลาม”
แฉ… แผนการร้ายของชีอะฮ์อังกฤษ (ชีอะฮ์ลอนดอน)
อิสลามไทม์ : ชีอะฮ์อังกฤษเเละซุนนีย์อเมริกา มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งทั้งสองคือสองคมของกรรไกรเล่มเดียวกัน พวกเขามีความพยายามในการทำให้มวลมุสลิมต้องเผชิญหน้ากัน นี่คือสาส์นแห่งความปรารถนาในการสร้างความขัดแย้งซึ่งมันคือความปรารถนาของชัยฏอนมารร้าย เเต่ทว่าสาส์นเเห่งเอกภาพคือการนำมวลมุสลิมก้าวผ่านความขัดแย้งอันนี้ เเละสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติเเละช่วยเหลือซึ่งกันเเละกัน
หมู่บ้านฟะดัก อัซ-ซุฆรอ ในกรุงลอนดอน ถูกกว้านซื้อโดยเชคยาซีร อัลฮะบีบ ลูกเขยของซัยยิดมุจญตะบา ชีรอซีย์ น้องชายของซัยยิดศอดิก ชีรอซีย์ เพื่อเตรียมที่ดินบริเวณดังกล่าวไว้สำหรับสร้างชุมชนและหมู่บ้านมุสลิมชีอะฮ์เเละเชิญชวนผู้อาศัยชาวอังกฤษเข้าสู่เเนวทางชีอะฮ์
ธงของกลุ่มยาซีร อัลฮะบีบ คือ “ กลุ่มคุดดามุลมะฮ์ดีย์” (ผู้ช่วยเหลืออิมามมะฮ์ดีย์)ได้ถูกชักขึ้นสู่ยอดเสาในบริเวณชุมชนนี้ ยะซีร อัลฮะบีบ ได้ แถลงในพิธีเปิดชุมชนเเห่งนี้ว่า เป้าหมายของการเคลื่อนไหวนี้เพื่อเป็นการวางพื้นฐานสู่การพิชิตแผ่นดินอิสลามโดยเฉพาะมักกะฮ์ มะดีนะฮ์เเละที่ดินฟะดัก การเเถลงถึงเป้าหมายคือการพิชิตซาอุดิอาระเบียอย่างเปิดเผยครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากสหราชอาณาจักรอังกฤษเป็นอย่างมาก
การเคลื่อนไหวล่าสุดของสมาชิกกลุ่มนี้คือการบุกสถานทูตอิหร่านในกรุงลอนดอน หนึ่งวันหลังจากการปราศรัยอย่างดุเดือด ประมาน 55 นาทีของยาซีร อัลฮะบีบ เเนวความคิดชีรอซีย์ถือเป็นสัญลักษณ์ของชีอะฮ์อังกฤษในการเผชิญหน้ากับเอกภาพของโลกมุสลิม หลังจากการประท้วงที่สถานทูตอิหร่าน เเละการดึงความสนใจจากประชาชนทั่วไปเเล้ว พวกเขาได้ตะโกนสโลเเกนต่างๆอันเป็นการดูหมิ่นเเละหยามเกียรติของท่านหญิงอาอิชะฮ์ ภรรยาของท่านศาสดาเเห่งอิสลาม เเละคอลีฟะฮ์ทั้งสามของชาวซุนนีย์ได้เเก่ ท่านอบูบักร ท่านอุมัร เเละท่านอุสมานเเละสโลเเกนที่นำมาสู่ความเเตกเเยกด้วยเสียงอึกกะทึกครึกโครมเเละเกรี้ยวกราดต่อหน้าสื่อมวลชนทุกแขนง
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากคาดการณ์ว่า เป้าหมายหลักของสมาชิกกลุ่มนี้ในการบุกสถานทูตอิหร่านคือการกระตุ้นความขัดเเย้งให้เกิดภายในประชาชาติอิสลามเเล้ว ถือว่าเรื่องนี้ถือเป็นมิติใหม่ที่น่าจับตามอง !
ในความเป็นจริงกลุ่มเเนวความคิดที่หลงทางนี้เริ่มต้นดึงดูดความสนใจจากประชาชนด้วยการบุกสถานทูตอิหร่าน หลังจากนั้นได้ใช้โอกาสนี้เผยเเพร่เเนวความคิดที่หลงทางเเละสร้างความเเตกเเยกของตนที่หลายปีมานี้ได้นำเสนอทางช่องดาวเทียมต่างๆสู่สาธารณะชน
เเนวความคิดนี้เริ่มต้นตั้งเเต่ช่วงเเรกของการปฏิวัติอิสลามที่ยืนหยัดต่อสู้กับเเนวทางเเห่งเอกภาพของท่านอิมามโคมัยนีเเละคุณลักษณะพิเศษของชีอะฮ์อังกฤษที่ถูกนำเสนอคือการดูหมิ่นเเละหยามเกียรติท่านหญิงอาอีชะฮ์เเละคอลีฟะฮ์ทั้งสามอย่างต่อเนื่อง เเต่การบุกสถานทูตอิหร่านในกรุงลอนดอนของสมาชิกกลุ่มนี้ได้เผยใบหน้าที่เเท้จริงเเละเเนวความผิดที่หลงทางของชีอะฮ์อังกฤษ เเละการไม่สนใจของตำรวจท้องที่ต่อการประท้วงนี้ชี้ให้เห็นถึงการร่วมมือของลอนดอนกับเเนวความคิดนี้อย่างชัดเจน
ท่าน ซัยยิดอะลี คาเมเนอีย์ ได้กล่าวต่อประชาชนกลุ่มต่างๆในวโรกาสอีดฆอดีร วันที่30 ชะฮ์เรวัร ปี1395 (เดือนอิหร่าน) ว่า
ชีอะฮ์อังกฤษเเละซุนนีย์อเมริกา มีความคล้ายคลึงกัน ซึ่งทั้งสองคือสองคมของกรรไกรเล่มเดียวกัน พวกเขามีความพยายามในการทำให้มวลมุสลิมต้องเผชิญหน้ากัน นี่คือสาส์นแห่งความปรารถนาในการสร้างความขัดแย้งซึ่งมันคือความปรารถนาของชัยฏอนมารร้าย เเต่ทว่าสาส์นเเห่งเอกภาพคือการนำมวลมุสลิมก้าวผ่านความขัดแย้งอันนี้ เเละสามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติเเละช่วยเหลือซึ่งกันเเละกัน
ก่อนหน้าเหตุการณ์บุกสถานทูตในกรุงลอนดอน ไอซิสถูกรู้จักในนามสัญลักษณ์ของซุนนีย์อเมริกาหรือกลุ่มตักฟีรีย์ เเต่ประชาชนจำนวนหนึ่ง ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของชีอะฮ์อังกฤษ การบุกของกลุ่มชีรอซีย์ไปยังสถานทูตอิหร่านเเละสโลเเกนที่ก่อให้เกิดความเเตกเเยก เป็นเหตุให้เเนวความคิดของกลุ่มนี้ ถูกรู้จักเเละชี้ให้เห็นว่าเงินจากกองคลังอังกฤษ ถูกนำมาใช้ในการส่งเสริมและเสริมสร้างความเข้มเเข็งของชีอะฮ์อังกฤษ เพื่อขัดขวางความเป็นปึกแผ่นนของมวลมุสลิม
ไม่ผิดเลย หากเราจะกล่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มชีรอซีย์เป็นแผนการณ์เเละได้รับการชี้นำจากหน่วยงานลับของอังกฤษ เพื่อกระตุ้นความเคลื่อนไหวในการสร้างความขัดเเย้งในโลกมุสลิม
ในตอนนี้ ถึงเเม้มีความจำเป็นในการประท้วงอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลอังกฤษเพื่อปล่อยตัวสมาชิกกลุ่มชีรอซีย์ที่ได้คุกคามและบุกรุกสถานทูตอิหร่านอย่างต่อเนื่องและพยายามที่จะได้รับค่าชดเชย เเต่ในขณะเดียวกันจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคนิคทางการทูต ในการชี้เเจงเรื่องราวของเเนวความคิดที่หลงทางของชีรอซีย์เเละเเผนการณ์ของอังกฤษในการให้ความคุ้มครองพวกเขาเเละกลุ่มอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องเเละได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาเเละซีไอเอ อย่างเช่นไอซิส เเละกลุ่มอัสนุสเราะฮ์ เเละจำเป็นต้องทำให้ประเทศมุสลิมเเละมวลมุสลิมรู้เท่าทันถึงอันตรายของเเนวความคิดที่หลงทางนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาคม
