สาเหตุอันใด อับดุลลอฮฺ บิน ญะอฺฟัรจึงไม่ได้ร่วมเดินทางไปกัรบะลาพร้อมท่านอิมามฮูเซ็น(อ.)?

520

1. ด้วยเหตุผลที่ว่า อับดุลลอฮฺ ตาบอด ถือว่าไม่ถูกต้อง, เนื่องจากรายงานกล่าวว่าเมื่อกองคาราวานเดินทางกลับจากกัรบะลาอฺนั้น อัลดุลลอฮฺ จำท่านหญิงซัยนับไม่ได้ ซึ่งเขาเห็นว่านั่นเป็นสตรีที่หมดสภาพและหมดอาลัยตายยาก

2. อับดุลลอฮฺ มีอายุมากเข้าสู่วัยชรา ก็ไม่อาจเป็นเหตุผลได้, เนื่องจากฮะบีบ และเอาสะญะฮฺ หรืออะนัสก็มีวัยชราเช่นเดียวกัน ขณะที่อิมามซัจญาด (อ.) ไม่สบายก็ได้เดินทางรวมขบวนไปด้วย

3. จากสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้, อาจกล่าวได้ว่าอับดุลลอฮฺต้องการความปลอดภัยจากบนีอุมัยยะฮฺ ด้วยสาเหตุที่ว่า เป็นอุปสรรคและต้องการปกปักษ์อิมามจากการยืนหยัด, ถามว่ายังมีผู้สงสัยในฐานะภาพของอับดุลลอฮฺ อีกหรือ?

คำตอบแบบสรุป

ประเด็นที่ว่า อับดุลลอฮฺ บินญะอฺฟัร ไม่ได้เข้าร่วมขบวนการไปกับท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) ยังกัรบะลาอฺ, มีเหตุผลมากมายถูกกล่าวถึง ซึ่งต้องใคร่ครวญเป็นพิเศษ และไม่อาจยอมรับได้โดยทันที,แต่จำนวนหนึ่งจากเหตุผลเหล่านั้นสามารถเชื่อถือได้, ซึ่งเหตุผลที่สำคัญและดีที่สุด คือเหตุผลที่กล่าวว่า ท่านอับดุลลอฮฺป่วยไม่สบายและชราภาพด้วย ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับรายงานอื่นทางประวัติศาสตร์, เช่น การส่งครอบครัวไปพร้อมกับกองคาราวานของท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) และการแสดงความเสียใจที่ไม่อาจร่วมเดินทางไปพร้อมกับท่านอิมามได้, เข้าใจได้ว่า เหตุผลนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้ท่านอับดุลลอฮฺ ไม่สามารถเข้าร่วมกองคาราวานกับท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) นั่นเอง, สิ่งที่ยืนยันประเด็นดังกล่าว, ฐานะภาพและการให้เกียรติที่อับดุลลอฮฺ กับอะอิมมะฮฺ (อ.) และบนีฮาชิมหลังเหตุการณ์อาชูรอ อีกทั้งไม่มีผู้ใดเคยว่ากล่าว หรือตำหนิท่านอับดุลลอฮฺ แต่อย่างใด

คำตอบแบบละเอียด

1. บรรดาชุฮะดาแห่งกัรบะลาอฺ : เกี่ยวกับชุฮะดาแห่งกัรบะลาอฺนั้นต้องขอกล่าวว่า พวกเขาคือมนุษย์อีกจำพวกหนึ่งซึ่งได้ทำให้ความหมายของการต่อสู้ (ญิฮาด) ในหนทางของอัลลฮฺสมจริงขึ้นมา พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่า การยืนหยัดต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺไม่ว่าจะเป็นไปในรูปแบบใดล้วนเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ทั้งสิ้น พวกเขาดูภายนอกถูกสังหารจนหมดสิ้นและเหมือนกับพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่สุด, แต่ตามความเป็นจริงแล้วพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างแท้จริง พวกเขาได้รับชีวิตอมตะด้วยการแลกด้วยความตาย และเป็นทีรักยิ่ง ณ อัลลอฮฺ (ซบ.) พวกเขาได้ก้าวไปถึงยังตำแหน่งหนึ่งซึ่งน้อยคนนักที่จะไปถึงได้, และความประเสริฐนี้สำหรับพวกเขาแล้วมันมีความยิ่งใหญ่ เทียบเท่าบรรดาชะฮีดแห่งสงครามบัดรฺ [1] พวกเขาได้พบกับชีวิตอมตะ ด้วยการสละชีวิตในหนทางของอัลลอฮฺ และทำให้พวกเขาได้พบกับความหมายที่แท้จริงของชีวิต

2. การมิได้เข้าร่วมของบางคนในกัรบะลาอฺ : บางคนผู้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันดี แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจต่อการยืนหยัดต่อสู้ของท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) ในแผ่นดินกัรบะลาอฺ และไม่มีข้ออ้างด้วยว่าเป็นเพราะสาเหตุใดจึงไม่ไปกัรบะลาอฺ, แต่ก็สามารถกล่าวถึงข้ออ้างของพวกเขาได้บ้าง, ด้วยเหตุนี้ การที่บางคนไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์ในกัรบะลาอฺ นั้นมิได้ห่างไกลไปจากความศรัทธาที่ถูกต้องเลยแม้แต่นิดเดียว, แม้ว่าผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมนั้นต่อมาจะได้รับผลกระทบเสียหายมากมายก็ตาม อย่างน้อยที่สุดคือ การได้เป็นชะฮีดเคียงข้างท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าพวกเขาได้นอกนอกความศรัทธาไปแล้ว, และในกรณีที่มิได้เป็นเช่นนั้น ดังนั้น บุคคลใดที่ไม่ได้เข้าร่วมในเหตุการณ์กัรบะลาอฺ พวกเขาจึงถูกนับว่าเป็นผู้ทรยศกับแนวทางการยืนหยัดของท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) ทว่าบางคนได้รับเกียติเป็นผู้ศรัทธาแท้จริง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นมิตรสหายเหมือนมิตรสหายแห่งกัรบะลาอฺ หรือชุฮะดาแห่งกัรบะลาอฺ แต่พวกเขาก็ได้ความประเสริฐระดับสูงเช่นกัน ซึ่งน้อยคนนักที่จะสามารถก้าวไปถึงตำแหน่งดังกล่าวได้

ท่านอัลลามะฮฺ ฮิลลียฺ ได้รับรองประเด็นดังกล่าวไว้ ซึ่งท่านได้กล่าวว่า การทีอับดุลลอฮฺ บินญะอฺฟัร และบุคคลอื่นที่อยู่ในฐานะภาพใกล้เคียงกับเขา ไม่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์กัรบะลาอฺแล้ว จะถือว่าพวกเขาออกนอกความศรัทธาอัลลามะฮฺ มัจญฺลิซ ได้เล่ามาจากอัลลามะฮฺ ฮิลลียฺ ว่า : ตามหลักการของชีอะฮฺได้พิสูจน์แล้ว่าหลักความศรัทธานั้น ประกอบด้วย การมีศรัทธาต่อเตาฮีด ความยุติธรรมของพระเจ้า นบูวัต และอิมามัต ซึ่งฐานะภาพของมุฮัมมัด บินฮะนีฟะฮฺ หรืออับดุลลอฮฺ บิน ญะอฺฟัร นั้นสูงส่งและยิ่งใหญ่กว่าการที่จะมากล่าวว่า พวกเขาขัดแย้งกับความจริงและความเชื่อ และออกนอกความศรัทธาซึ่งได้รับผลบุญอันอมตะนิรันดร หรือความศรัทธาซึ่งจะทำให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษ[2]

บุคลิกภาพของอับดุลลอฮฺ

อับดุลลอฮฺ บุตร ชายของญะอฺฟัร ฏ็อยยาร เป็นเซาะฮาบะฮฺผู้ยิ่งใหญ่ของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) เป็นลูกพี่น้องกับท่านอิมามอะลี (อ.) ซึ่งความประเสริฐและฐานันดรของท่านนั้นยิ่งใหญ่ตามปรากฏในหน้าประวัติศาสตร์, ญะอฺฟัรคือผู้อาวุโสของอิสลามและมุสลิม ซึ่งท่านได้รับคำสั่งจากท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) ให้อพยพไปประเทศเอธิโอเปีย, อับดุลลอฮฺ คือการถือกำเนิดแรกของอิสลาม ซึ่งท่านได้คลอดในประเทศเอธิโอเปีย และหลังจากกลับจากการอพยพ ท่านได้เดินทางไปฮิญาซ เพื่อพบบิดาของท่าน คือ ท่านญะอฺฟัร อัฏฏ็อยยาร ท่านได้เข้าพบท่านศาสดาเสมอ และหลังจากบิดาของท่านได้อำลาจากไป อับดุลลอฮฺ ได้รับการชุบเลี้ยงให้เติบใหญ่โดย ท่านอับบาส บุตรของ อับดุลมุฏ็อล อับดุลลอฮฺ นับได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของบนีฮาชิม ท่านได้รับใช้ท่านอิมามอะลี (อ) อยู่นานหลายปี และได้ช่วยเหลือท่านอิมาม (อ) ในหลายเหตุการณ์ด้วยกัน อับดุลลอฮฺ รู้สึกดีถึงภาระหน้าที่ของท่าน ท่านและสหายคนอื่นของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) จึงได้ร่วมมือกันเพื่อให้ความช่วยเหลือท่านอิมามอะอี (อ.) ในหลายๆ เหตุการณ์สำคัญ ความรักและความซื่อสัตย์ที่ท่านอับดุลลอฮ มีต่ออิสลามและระบบการปกครองในอิสลามนั้นยิ่งใหญ่มาก, ท่านอิมามอะลี (อ.) ได้ยินยอมให้ท่านอับดุลลอฮฺ มอบสัตยาบัน และออกสงครามหลายหนเพื่อต่อสู้กับความเท็จ อีกทั้งในสงครามต่างๆ ท่านยังได้เป็นผู้ปกป้องอิสลามอย่างเข้มแข็งที่สุดคนหนึ่ง

ความเชื่อและความศรัทธาของอับดุลลอฮฺ เกี่ยวกับท่านอิมามฮะซัน (อ.) และท่านอิมามฮูเซ็น (อ.) นั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ และเท่าที่มีความสามารถท่านได้รับใช้อิมามทั้งสองอย่างเต็มกำลังความสามารถที่มีอยู่